เรื่องเหมือนกับเล่มแรก เป็นเหตุการณ์ตามเล่มแรก แต่เป็นด้านเอ็ดเวิร์ดเล่าเพื่อตอบโจทย์หลายๆอย่างของผู้อ่าน รู้แต่ความรู้สึกของเอ็ดเวิร์ดและรู้ปมบางอย่างที่ไม่ได้บอกไว้ในเล่มหนึ่ง ที่เบลล่าเห็นหรือสงสัย อย่างเช่น ทำไมเอ็ดเวิร์ดทำท่าเกลียดเบลล่าตอนเห็นเบลล่าครั้งแรกในห้องเรียน ครั้งแรกที่อากาศแจ่มใสมีแดดออก เบลล่าเลยเปิดหน้าต่างห้องนอนตัวเอง แล้วแปลกใจว่าทำไมมันไม่ฝืดเลย ทั้งๆ ที่หน้าต่างนี้ต้องปิดมาหลายปีแล้ว ไม่น่าจะเปิดได้ง่ายๆ พอมาอ่านเล่มสุดท้ายนี้ ถึงรู้ว่า เอ็ดเวิร์ดทำตัวเป็น stalker ไปแอบดูเบลล่าที่บ้าน อย่างที่บอกนางเอกไว้เล่มแรก งัดหน้าต่างห้องนางเอกเข้าไปในห้องเลยไม่ใช่แค่แอบดูจากนอกหน้าต่าง แถมกลัวเบลล่ารู้สึกตัวตื่นขณะหลับ เลยบอกตัวเองว่าต้องเอาน้ำมันมาชะโลมบานหน้าต่าง มันจะได้ไม่ฝืด เวลาเปิดแอบเข้าไปอีก นางเอกจะได้ไม่ได้ยินเสียงอีก ตอนหนึ่งที่แดดออก แล้วพระเอกหยุดเรียนไป พอมาเล่มนี้ ก็เฉลยว่าเอ็ดเวิร์ดไม่ได้ไปเข้าป่าล่าเหยื่อตลอดอย่างที่นางเอกรู้ แต่ที่จริงไปวันเดียวแล้วทนคิดถึงเบลล่าไม่ไหว ไม่เป็นอันกิน เพราะห่วงเบลล่าจะหาเรื่องเจ็บตัวอีก เลยกลับมาแอบซุ่มดูนางเอกจากริมป่าที่โรงเรียน และที่บ้านทุกวันระหว่างนั้น ตอนเบลล่าเอาผ้ามาปูนอนอ่านนิยายในสนามหน้าบ้านแล้วหลับไป พระเอกก็ซุ่มบนต้นไม้สูง แอบมองเบลล่าอยู่ แล้วยังลงมาหยิบดูว่านางเอกอ่านเรื่องอะไรอยู่ด้วย แต่เบลล่าหลับไม่รู้ตัว
วันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2554
breking dawn ภาค 4
ย้อนกลับไปตอนที่เอ็ดเวิร์ด และเบลล่ามาขออนุญาตชาร์ลีแต่งงานกัน ตอนนั้นเบลล่ารู้สึกถึงความหนักอึ้งของแหวนหมั้นที่นิ้ว วิตกกังวลไปหมดว่าจะพูดยังงไง ทั้งสองคนรอการกลับมาบ้านของชาร์ลีอย่างใจจดใจจ่อ จนกระทั่งชาร์ลีกลับมาถึงเห็นทั้งสองคนนั่งด้วยกันแบบมีพิรุจก็ชักเอะใจ พอเบลล่ากับเอ็ดเวิร์ดขอคุยด้วยก็ชักซีเรียสขึ้นมา และยิ่งเมื่อทั้งสองคนมานั่งต่อหน้าหลังจากเอ็ดเวิร์ดบอกว่ามีข่าวดีจะบอก ชาร์ลีก็เริ่มคิดไปเองและโพล่งออกมาว่า "เบลล่าท้องหรือ" ได้ยินดังนั้นเบลล่าก็รีบปฏิเสธ จนในที่สุดเอ็ดเวิร์ดตัดสินใจเป็นฝ่ายบอกเสียเองว่าเขาได้ขอเบลล่าแต่งงาน และเธอก็ตกลง และก็ขอโทษที่เขาไม่ได้ขอชาร์ลีก่อนตามธรรมเนียม ดังนั้นพวกเขาอย่างจะขอคำอวยพรจากชาร์ลีสำหรับการแต่งงานครั้งนี้ พอ ได้ฟังดังนั้นชาร์ลีก็ถึงกับอึ้งไปชั่วขณะจนหน้าเปลี่ยนสีไปมา แต่พอตั้งสติได้ก็เป็นฝ่ายถามว่าทำไมถึงรีบร้อนกันนัก เอ็ดเวิร์ดเลยอ้างเรื่องที่ว่าพวกเขาทั้งสองคนต้องไปเรียนมหาวิทยาลัยด้วย กัน (ประหนึ่งว่าออกไปอยู่ด้วยกันจริงๆแล้วนะ) ก็เลยอยากทำอะไรๆให้มันถูกต้องเสียก่อน ชาร์ลีก็นิ่งคิดหาวิธีตั้งรับก่อนจะหัวเราะและบอกว่าคิดแล้วว่าสักวันเรื่อง นี้มันต้องมาถึง แต่งงาน โอเค แต่ง แต่ว่าเบลล่าจะต้องเป็นคนบอกแม่เอง ประมาณว่าชาร์ลีคิดว่านี่เป็นไม้ตายแล้วเชียว ก็เพราะเรเน่เคยแต่งงานกับชาร์ลีเมื่อครั้งยังเด็กมากๆ และก็ผิดหวัง หย่าร้างกันมาแล้ว เลยค่อนข้างจะแอนตี้เรื่องการแต่งงานเมื่ออายุน้อยอยู่มาก แต่กลับผิดคาด เมื่อเรเน่เองกลับบอกว่า แม่รออยู่แล้ว เพราะแม่รู้ตั้งแต่ครั้งที่เบลล่ามาหาครั้งที่แล้ว และเรเน่ก็อนุญาต
หลัง จากคืนวันก่อนแต่งงานที่เอ็ดเวิร์ดมาหาเบลล่า ทั้งสองคนก็ไม่ได้พบกันอีกตามธรรมเนียมที่เจ้าบ่าว-เจ้าสาวห้ามเจอกันก่อน แต่งงาน เช้าวันแต่งอลิซมารับเบลล่าไปบ้านคัลเลน แล้วจัการแต่งองค์ทรงเครื่องให้
เบลล่ารู้สึกตื่นเต้นมากๆ พาลเอาหูตาลายหายใจไม่ออก ไม่มีแรง จนพ่อและอลิซต้องยืนขนาบข้าง และให้กำลังใจว่าเอ็ดเวิร์ดรออยู่ข้างล่าง ทั่วทั้งบ้านถูกเนรมิตให้งดงามสมกับเป็นสถานที่แต่งงานด้วยดอกไม้และริบบิ้น มากมาย เบลล่าพยายามมองหาคนที่ใจคิดถึงจนในที่สุดก็พบกับเอ็ดเวิร์ดที่สุดทางเดิน สู่พิธี และไม่อาจละสายตาจากเขาไปได้ เบลล่ามึนงงอีกครั้งด้วยรอยยิ้มละลายใจของเจ้าบ่าวตัวเอง ทั้งสองกล่าวตอบรับคำปฏิญาณที่ถูกขอให้บาทหลวงปรับเปลี่ยนให้นิดหน่อยจาก "จวบจนความตายจะมาพรากเราจากกัน" เป็น "ตราบนานเท่าที่เรายังมีชีวิตอยู่ด้วยกัน" และจูบกันปิดท้าย คราวนี้ เบลล่าจูบแล้วเคลิ้มไม่ สนใจคนรอบข้าง แบบว่าจูบกันซะนาน จนเอ็ดเวิร์ดเป็นคนที่มีสติและหยุดการจูบลงซะก่อน ผู้ร่วมงานเลยได้โอกาสปรบมือเสียที
พอ งานเลี้ยงกลางคืนก็มีการให้เจ้าบ่าวก้มลงถอดสายรั้งถุงน่องของเจ้าสาวด้วย เต้นรำเปิดฟลอร์ แล้วก็เต้นกับแทบทุกคนที่รู้จัก และรับคำอวยพรจากทุกคน นอกจากนั้นก็ตัดเค้กแจกจ่าย และเอ็ดเวิร์ดเองก็มีของขวัญสุดพิเศษมอบให้เบลล่า ของขวัญชิ้นนั้นคือ เจคอบ!!!
เอ็ดเวิร์ดเปิดโอกาสให้เจคอบและเบลล่าได้อยู่กันตามลำพังในมุมหนึ่งของสวน เบลล่าก็ แสดงความห่วงใย.และเบลล่าก็ได้พลั้งปากไปว่าจะไปฮันนีมูนกับเอ็ดเวิร์ดแบบเป็นการมีอะไรกัน เจคอบได้ยินก็เลือดขึ้นหน้า หาว่าเบลล่าบ้าไปแล้วหรือไง แล้วเขย่าตัวเบลล่า เอ็ดเวิร์ดก็มาทันที มาบอกให้ปล่อยเบลล่า จนเกือบจะมีเรื่องกัน แต่ ทุกอย่างก็กลับเป็นปกติอีกครั้ง และเอ็ดเวิร์ดก็ยังคงใจดีเหมือนเดิม คิดจะเปิดโอกาสให้เบลล่าอีก แต่เบลล่าก็ยืนยันว่าไม่เป็นไร และเก็บกักความรู้สึกต่อเจคอบไว้ภายใน ทั้งสองกลับไปร่วมงานต่อ จนเมื่อถึงเวลาอลิซก็มาจัดแจงให้ทั้งสองคนไปฮันนีมูนในสถานที่ที่ไม่มีใคร ยอมบอกเบลล่าว่าเป็นที่ไหน
ใน ที่สุดทั้งสองคนก็มาถึงเกาะแห่งหนึ่ง -Isle Esme( ชื่อแม่เอ็ดเวิร์ด)เป็นเกาะส่วนตัว เกาะนี้อยู่ในเขตร้อน กลางเกาะมีบ้านหลังใหญ่ เอ็ดเวิร์ดเรียกเบลล่าว่า "คุณนายคัลเลน" เบลล่าถึงกับสะดุ้ง (ยังไม่คุ้นชิน) เอ็ดเวิร์ดถามเบลล่าว่าอยากไปว่ายน้ำตอนดึกอย่างนี้กับเขามั้ย อากาศร้อนที่นี่ทำให้ตอนกลางคืนน้ำอุ่นดี ว่าแล้วเอ็ดเวิร์ดก็ให้เวลาเบลล่าตัดสินใจเอง ส่วนตัวเขาถอดเสื้อทิ้งไว้ที่พื้น แล้วเดินออกไปที่ชายหาด เบลล่า รู้ ไม่รู้จะตัดสินใจทำอะไรดี เลยตัดสินใจอาบน้ำคลายเครียดเสียก่อน พอไปเปิดกระเป๋าก็เจอแต่เสื้อผ้าแบบเซ็กซี่ (อลิซจัดให้ ) พออาบน้ำไปก็คิดไปจะเอาไงดี ถึงขั้นนั่งคิดในห้องน้ำอยู่นาน จนตัดสินใจเดินออกไปที่ชายหาดพร้อมผ้าเช็คตัวผืนเดียวเบลล่าก็กลั้นใจถอดผ้าเช็ดตัว ค่อยๆย่องลงน้ำไปหาเอ็ดเวิร์ด จนได้มีอะไรกันในที่สุด
รุ่ง เช้าเบลล่าตื่นมาอย่างมีความสุขต่างกับเอ็ดเวิร์ดที่รู้สึกผิด เนื่องด้วยตามเนื้อตัวของเบลล่าเต็มไปด้วยรอยเขียวช้ำ เบลล่ายืนยันว่าไม่ใช่อย่างนั้น-เธอสบายดี แต่เอ็ดเวิร์ดก็ยังคงรู้สึกผิดอยู่ดี และบอกว่าจากนี้เขาจะไม่มีอะไรๆกับเบลล่าอีกจนกว่าเธอจะเปลี่ยนเป็นแวมไพร์เสียก่อน เบลล่าพยายามหลายต่อหลายวิธีที่จะทำให้เอ็ดเวิร์ดเปลี่ยนใจ แต่ก็ไม่เป็นผล ในขณะเดียวกันเอ็ดเวิร์ดก็พยายามหักเหความสนใจของเบลล่าโดยพาออกไปทำกิจกรรม กลางแจ้งทุกวันจนเบลล่ากลับมาแล้วเหนื่อยอ่อนหลับคาโต๊ะกินข้าวแทบทุกวัน ในระหว่างนั้นเบลล่าก็ฝันร้ายซ้ำไปซ้ำมาถี่ขึ้น - ฝันถึงโวลตูรี ฝันว่าพวกนั้นจะฆ่าเด็กน้อยดวงตาสีเขียวสดใส เด็กน้อยแวมไพร์ที่นั่งอยู่บนกองซากศพของคนที่เบลล่ารู้จัก ทั้งเพื่อนฝูงและครอบครัว จนในที่สุดในวันหนึ่งที่เบลล่าฝันอีกครั้ง เบลล่าตื่นขึ้นมาด้วยน้ำตา เอ็ดเวิร์ดตกใจมากและต้องการให้เบลล่าเล่าให้ฟัง แต่ดันยังไม่ทันได้เล่าเบลล่าก็พาเอ็ดเวิร์ดเข้าสู่โหมดเกินหักห้ามใจ และในที่สุดเบลล่าก็ได้ในสิ่งที่ต้องการ.
จาก นั้นทั้งสองคนก็เริ่มเรียนรู้การอยู่ร่วมกันอย่างปลอดภัย (เอ็ดเวิร์ดป่อยพลังส่วนเกินไปยังส่วนต่างๆของเตียงจนพังไปหมด)และเมื่อคิดถึงความฝันในครั้งนั้น การที่เบลล่าร้องไห้ไม่ใช่เพราะมันเป็นฝันร้าย แต่สำหรับเธอมันคือฝันดี - เบลล่าพร้อมจะปกป้องเด็กน้อยคนนั้น โดยไม่หันหลังให้เหมือนทุกครั้ง และในคืนหนึ่ง เบลล่าที่ช่วงนี้เริ่มเหนื่อยง่าย และนอนหลับมากขึ้น ตื่นมาในยามดึก และพบว่าเอ็ดเวิร์ดออกไปล่า เบลล่ารู้สึกร้อนจนนอนต่อไม่ได้ จึงตัดสินใจมาอบไก่กิน กินแล้วก็รู้สึกว่ารสชาติมันแปลก ลองชิมหลายคำก็ไม่อร่อยจึงเททิ้งทั้งตัว แล้วมาทิ้งตัวนอนในโซฟาในห้องดูทีวี โดยเปิดหน้าต่างเอาไว้ จนในที่สุดแสงแดดก็ส่องมาที่ตัว เบลล่าค่อยๆรู้สึกตัว แต่ความจริงแล้วสิ่งที่ทำให้ทำตื่นก็คือสัมผัสเย็นๆจากตัวเอ็ดเวิร์ดต่างหาก เอ็ดเวิร์ดขอโทษที่ทิ้งไปปล่อยให้เบลล่านอนร้อนๆอย่างนี้ คราวหน้าก่อนจะออกล่าอีกคงต้องติดแอร์เสียแล้ว แต่เบลล่ารู้สึกพะอืดพะอมจึงขอตัวไปอาเจียน เล่นเอาเอ็ดเวิร์ดตกใจ แต่เบลล่าก็บอกว่าอาหารคงเป็นพิษ
จาก นั้นเอ็ดเวิร์ดก็หาอะไรให้เบลล่ากินและมาดูทีวีกัน เบลล่าผล็อยหลับไป ตื่นมาอีกทีก็มีอาการเดิมอีก เอ็ดเวิร์ดเลยชวนไปหาหมอ แต่เบลล่าไม่ไป แล้วไปค้นหายาในกระเป๋า แต่สิ่งที่ปะทะสายตากลับทำให้เบลล่าต้องหยุดคิด เอ็ดเวิร์ดที่เมียงมองอยู่ถามว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า เบลล่าจึงถามกลับไปว่าเรามาฮันนีมูนที่นี่กี่วันแล้ว คำตอบที่ได้มาคือ 17 วัน นั่นเองที่ทำให้เบลล่าคิดได้ว่าเธอไม่น่าจะเจอกับอาการอาหารเป็นพิษแล้วล่ะ เมื่อเอ็ดเวิร์ดถามว่าเกิดอะไรขึ้น เบลล่าจึงบอกว่า เธอคิดว่าเธอท้องแล้ว และนั่นเองที่นำมาซึ่งความช็อคของทั้งสองฝ่าย
เอ็ด เวิร์ดนิ่งค้าง ขณะที่เบลล่าคิดหาความเป็นไปได้ และในตอนนั้นเองที่โทรศัพท์มือถือของเอ็ดเวิร์ดดังขึ้น แต่เอ็ดเวิดยังคงนั่งในท่าเดิม จนในที่สุดเบลล่าก็รวบรวมเรี่ยวแรงไปควานหาโทรศัพท์ในตัวเอ็ดเวิร์ด และพบว่าอลิซโทรมา เบลล่าขอคุยกับคาไลส์ ซึ่งได้ข้อสรุปว่าเธอน่าจะท้องจริงๆ ในที่สุดเอ็ดเวิร์ดก็ค่อยๆดึงสติกลับมาได้ เขาขอพูดกับผู้เป็นพ่อด้วยความเคร่งเครียด และในที่สุดก็วางหูและบอกเบลล่าว่าเราต้องกลับบ้านกันแล้วล่ะ ไม่ต้องกลัวนะ คาไลส์จะจัดการกับสิ่งนั้นเอง ว่าแล้วเอ็ดเวิร์ดก็รีบร้อนเก็บข้าวของอย่างบ้าคลั่ง พร้อมโทรศัพท์จองเที่ยวบินด่วน
ณ ตอนนั้นเองที่เบลล่าคิดได้ว่าเด็กในท้องคงไม่ปลอดภัยเสียแล้ว ภายในท้องนี้เป็นลูกของเธอกับคนที่เธอรัก เหตุใดเธอจะต้องยอมสูญเสียเขาไป ก่อนกลับแม่บ้านที่ดูเหมือนจะรู้ว่าเอ็ดเวิร์ดไม่ใช่มนุษย์ได้มาที่บ้าน และโต้เถียงบางอย่างกับเอ็ดเวิร์ดด้วยภาษาที่เบลล่าไม่สามารถเข้าใจได้ แต่ดูจากสีหน้าแล้วเอ็ดเวิร์ดคงเจ็บปวดอยู่ไม่น้อย เมื่อแม่บ้านกลับไป เอ็ดเวิร์ดก็เก็บของไปลงเรือ และในขณะนั้นเองเบลล่าก็เห็นโทรศัพท์มือถือที่เอ็ดเวิร์ดวางทิ้งไว้ เธอจึงอาศัยจังหวะนั้นตัดสินใจกดเบอร์ๆหนึ่งซึ่งเธอไม่เคยโทรหามาก่อน "โรซาลี นี่เบลล่านะ ขอร้องล่ะ เธอต้องช่วยฉันนะ"
หลังจากเบลล่าพบว่าเธอตั้งท้องและอัตราการเติบโตของเด็กรวดเร็วผิดปกติ หลังจากติดต่อกับคาร์ไลล์เพื่อยืนยันว่าเธอท้อง เบลล่าและเอ็ดเวิร์ดได้รีบกลับบ้านที่ฟอร์กส วอชิงตันโดย ทันที เอ็ดเวิร์ดกังวลมากเกี่ยวกับการเติบโตอย่างรวดเร็วของตัวอ่อนในครรภ์และต้อง การให้เบลล่าทำแท้ง แต่เธอต้องการเก็บเด็กไว้และได้ติดต่อโรซาลีเพื่อให้เธอสนับสนุนเพราะรู้ว่า โรซาลีนั้นต้องการมีลูกเหมือนกัน
เจคอบ หลังจากที่รู้ว่าเบลล่าท้องฝูงหมาป่าแห่งควิลยูตไม่รู้ว่าจะมีอันตรายแค่ไหนจึงวางแผนที่จะทำลายมันแม้ว่ามันจะหมายถึงการฆ่าเบลล่าไปด้วยก็ตามเจคอบได้คัดค้านการตัดสินใจนี้อย่างรุนแรงและได้แยกตัวออกจากฝูงและได้สร้างฝูงของเขาเองโดยมีลีอาห์และเซ็ทเป็นลูกฝูงขณะที่ใกล้กำหนดคลอดเด็กได้หักกระดูกเบลล่าไปหลายท่อนและยังเสียเลือดไปมากในระหว่างคลอด เพื่อรักษาชีวิตเธอไว้ทำให้เอ็ดเวิร์ดต้องเปลี่ยนเธอเป็นแวมไพร์เจคอบซึ่งได้อยู่ด้วยในขณะคลอดได้ผูกวิญญาณกับลูกสาวแรกเกิดของเอ็ดเวิร์ดและเบลล่า เรเนสเม่
เบลล่าหลังจากกลายเป็นแวมไพร์ เบลล่าได้พอใจในชีวิตและความสามารถใหม่ของเธอมากอย่างไรก็ตาม แวมไพร์อิริน่าได่เข้าใจผิดว่าเรเนสเม่เป็น เด็กอมตะเด็กที่ถูกเปลี่ยนเป็นแวมไพร์และเนื่องจากเด็กอมตะไม่สามารถควบคุมได้ทำให้การสร้างเด็กอมตะเป็นเรื่องผิดกฎของโวลตูรี หลังจากอิริน่าได้แจ้งโวตูรีพวกเขามีแผนที่จะทำลายเรเนสเม่และครอบครัวคัลเลน ในความพยายามช่วยชีวิตเรเนสเม่ครอบครัวคัลเลนได้รวบรวมแวมไพร์ทั่วโลกเพื่อมาเป็นพยานและพิสูจน์กับพวกโวตูลีว่าเรเนสเม่ไม่ใช่เด็กอมตะ เมื่อเผชิญหน้ากับครอบครัวคัลเลนและพันธมิตรโวตูลีพบว่าเป็นการเข้าใจผิดและได้ลงโทษอิริน่าจากความผิดนั้นแต่พวกเขาก็ยังไม่แน่ใจว่าเรเนสเม่จะเป็นภัยคุกคามกับการรักษาความลับในเรื่องการคงอยู่ของแวมไพร์หรือไม่ ในเวลานั้นอลิซและแจสเปอร์ที่จากไปก่อนการเผชิญหน้าได้กลับมาพร้อมนาฮูลลูกครึ่งแวมไพร์-มนุษย์อายุ 150 ปีเหมือนกับเรเนสเม่ เขาช่วยคลายข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้และชี้แจงว่าพวกลูกครึ่งนั้นไม่เป็น ภัยคุกคาม โวตูลีจึงจากไป เบลล่า,เอ็ดเวิร์ด และเรเนสเม่ได้กลับบ้านและอาศัยอยู่ด้วยความสงบสุข
eclipse ภาค3
เริ่มเรื่องด้วยความสัมพันธ์ระหว่างเจคอบกับเบลล่า ที่ครานี้เบลล่าไม่ยอมสนใจใครนอกจากเอ็ดเวิร์ดจนชาร์ลีต้องออกปากให้เบลล่าหาความพอดีในการคบเพือนให้กับตัวเองในที่สุดเบลล่ากับเจคอบก็กลับมาพูดคุยกันอีกครั้ง คราวนี้เบลล่าได้พูดคุยกับเจคอบถึงเรื่องแซมและเอมิลี่ว่ารักกันได้อย่างไร เจคอบก็ได้เล่าเรื่องราวให้เบลล่าฟัง และทำให้เบลล่าได้เข้าใจถึงการ imprinting ซึ่งก็คล้ายกับรักแรกพบ แต่มันดูเหมือนจะรุนแรงและลึกซึ้งกว่า แต่เจคอบก็ปฏิเสธว่าไม่ได้รู้สึกเช่นนั้นกับใคร (เล่มนี้เล่นเอาลุ้นหลายรอบเหมือนกัน) ในขณะเดียวกันทางด้านแวมไพร์และมนุษย์หมาป่าก็ต่างพากันสอดส่องดูแลเบลล่าเป็นอย่างดี แต่จนแล้วจนรอดก็ยังมีใครบางคนที่เข้าไปห้องเบลล่า และขโมยเอาเสื้อผ้าของเบลล่าไป ตัวเบลล่าเองก็กลัวว่าจะเป็นวิคตอเรีย หรือไม่ก็โวลตูรี เบลล่าจึงรีบเร่งอยากจะเปลี่ยนเป็นแวมไพร์มากขึ้น แต่เอ็ดเวิร์ดก็ยังยึดเงื่อนไขเดิม คือ เบลล่าต้องแต่งงานกับเขาก่อน แต่ก็ได้กำหนดวันที่จะเปลี่ยนแปลงเบลล่าไว้หลังจบการศึกษาในปีนี้ ซึ่งเขาและเบลล่าจะได้ทำเป็นว่าไปเรียนต่อในที่ห่างไกล เช่น อลาสก้า เพื่อเป็นการกันเบลล่าออกจากผู้คน คือแวมไพร์ใหม่อาจจะยังควบคุมตัวเองไม่ได้ดี และเขาและเบลล่าจะไม่มีการแก่ขึ้นอีกแล้ว ในกรณีนี้ต้องตัดขาดจากคนที่คุ้นเคย เอ็ดเวิร์ดจึงต้องการผัดผ่อนเวลาเพื่อให้เบลล่ามีเวลาตรึกตรองนานขึ้น)ทางด้านซีแอทเทิลก็มีการเปลี่ยนแปลง เกิดมีการฆาตกรรมขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลที่ได้รับทางครอบครัวคัลเลนก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นฝีมือของแวมไพร์กำเนิดใหม่ พวกเขาจึงต้องหาทางยับยั้ง และคราวนี้ก็ดูเหมือนจะมีปัญหามากมายประเดประดังเข้ามา ทั้งวิคตอเรีย โวลตูรี และแวมไพร์ตัวปัญหากลุ่มใหม่ ซึ่งไม่รู้ว่าศัตรูที่แท้จริงแล้วมาจากทิศทาไหนกันแน่ อลิซที่เคยมองเห็นอนาคตล่วงหน้าก็ไม่สามารถบอกได้ว่าเหตุการณ์จะเป็นอย่างไร เนื่องด้วยศัตรูในครั้งนี้รู้จุดอ่อนในการมองเห็นของอลิซ ว่าสิ่งที่เห็นจะต้องเป็นสิ่งที่ตัดสินใจจะทำแล้วเท่านั้นทางด้านเบลล่าและเจคอบ ความผูกพันของทั้งคู่ดูคลุมเครือมาตลอด จนในที่สุดเจคอบก็เปิดเผยความในใจ เขาบอกรักเบลล่า และจูบเบลล่า เบลล่าก็อัดเข้าให้แต่คนที่เจ็บกลับเป็นตัวเบลล่าเอง เอ็ดเวิร์ดก็เป็นผู้พาไปรักษากับพ่อของเขา ในวันนั้นเจคอบก็พูดจุดประกายความรู้สึกในส่วนลึกของเบลล่าว่าจะต้องคิดถึงคำที่เขาพูด คิดถึงจูบในครั้งนี้ เพราะเบลล่าไม่รู้หัวใจตัวเองดีพอในที่สุดพิธีจบการศึกษาก็มาถึง คราวนี้เองที่เบลล่าเริ่มรู้สึกกลัวกับการเปลี่ยนตัวเองเป็นแวมไพร์ ประมาณว่าเริ่มสับสนในตัวเอง หลังพิธีที่โรงเรียนก็มีงานเลี้ยงใหญ่ที่บ้านของครอบครัวคัลเลนภายใต้การเนรมิตของอลิซ งานเลี้ยงก็ดำเนินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งแขกที่ครอบครัวแวมไพร์ไม่ได้เชิญก็มาเยือน ... เจคอบและเพื่อนสนิททั้งสองมา เบลล่าจึงจำต้องต้อนรับด้วยท่าทีไม่ค่อยจะเต็มใจ เจคอบให้ของขวัญเบลล่าเป็นกำไลที่ตั้งใจทำมาให้ เบลล่ารับไว้อย่างซึ้งใจ ในขณะนั้นเองอลิซก็นิมิตได้ถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ... การมาเยือนของเหล่าแวมไพร์กำเนิดใหม่ ซึ่งสอดคล้องกันดีกับความคิดของเบลล่าก่อนหน้านี้ที่เชื่อมโยงระหว่างใครสักคนที่มาค้นห้องของเธอเพื่อนำเสื้อผ้าที่มีกลิ่นของเธอไป และสร้างเหล่านักรบแวมไพร์ของตนเอง ซึ่งใครคนนั้นน่าจะเป็นวิคตอเรีย เจคอบได้ร่วมฟังเรื่องราวต่างๆและเห็นดีที่จะร่วมมือกันกำจัดศัตรู ... การฝึกฝนเพื่อเตรียมตัวรับมือกับแวมไพร์ใหม่จึงเริ่มขึ้นแผนการต่างๆ ถูกวางไว้อย่างรัดกุม เบลล่าจะมาอยู่กับครอบครัวคัลเลน ขณะที่ชาร์ลีจะไปใช้เวลาสุดสัปดาห์ที่ลาพุชกับบิลลี่ เบลล่าอ้อนวอนไม่ให้เอ็ดเวิร์ดไปสู้ร่วมกับทุกคน ซึ่งนั่นดูเป็นเรื่องที่เห็นแก่ตัวอย่างถึงที่สุด แต่อย่างไรเสียเอ็ดเวิร์ดก็ยินยอมทำตาม ดังนั้นช่วงเวลาดังกล่าวเอ็ดเวิร์ดจึงได้อยู่กับเบลล่าตามลำพัง และในตอนนี้เองที่เบลล่าพยายามจะมอบกายให้เอ็ดเวิร์ด แต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะเอ็ดเวิร์ดหักห้ามไว้ ในคืนนั้นเองเอ็ดเวิร์ดก็ได้ให้ของขวัญกับเบลล่าเป็นจี้รูปหัวใจ และได้ขอเบลล่าแต่งงาน พร้อมสวมแหวนให้ และในวันรุ่งขึ้นทุกอย่างก็ต้องดำเนินไปตามแผนเอ็ดเวิร์ดจะไปตั้งเต้นท์อยู่กับเบลล่าโดยจะให้เจคอบเป็นผู้พาไปเพื่อกลบกลิ่นของเบลล่า ในคืนที่มาหิมะตก พายุโหมกระหน่ำ เบลล่าหนาวสั่น แต่เอ็ดเวิร์ดก็ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะยิ่งใกล้เบลล่าก็จะยิ่งหนาว จึงทำได้เพียงแค่มอง และคิดจะถอยออกห่าง แต่เบลล่าก็ไม่ต้องการให้เอ็ดเวิร์ดออกไปจากเต้นท์ในคืนนั้นเจคอบที่ยังคอยวนเวียนอยู่ข้างนอกก็ได้เสนอการช่วยเหลือโดยใช้ร่างกายของเขาให้ไออุ่นกับเบลล่า คืนนั้นเอ็ดเวิร์ดก็ได้คุยกับเจคอบในหลายๆเรื่อง และได้บอกเจคอบว่า เขายินดีหากเบลล่าจะเลือกใครที่ทำให้เบลล่ามีความสุขรุ่งเช้าเกือบเกิดการต่อสู้เล็กๆ เมื่อเอ็ดเวิร์ดพยายามเอาเบลล่าออกจากอ้อมแขนของเจคอบ แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี เอ็ดเวิร์ดและเบลล่าฆ่าเวลาด้วยการทายถึงช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตของเอ็ดเวิร์ด และหนึ่งในนั้นก็เป็นช่วงเวลาที่เบลล่าตกลงรับปากแต่งงานกับเขา การพูดคุยของทั้งคู่ได้ยินถึงเจคอบที่อยู่ข้างนอก เจคอบร่ำร้องด้วยความเสียใจและหนีไป เบลล่าได้ยินก็สติแตกจะออกไปตาม เอ็ดเวิร์ดจึงตัดสินใจเป็นผู้ไปตามเจคอบกลับมาเองเจคอบตามเอ็ดเวิร์ดกลับมา เบลล่าร่ำร้องไม่ให้เจคอบไป แต่เจคอบไม่ฟัง เบลล่าเสียใจมาก เธอเสนอให้เจคอบจูบเธอ ถ้าแลกได้กับการที่เขาจะไม่จากไป เจคอบจูบเบลล่าเนิ่นนานมาก ในขณะนั้นเธอก็คิดไปด้วย ในที่สุดเบลล่าก็จูบตอบ และได้รู้ว่าใจของเธอองก็รักเจคอบเช่นเดียวกัน เจคอบดีใจที่เบลล่ารับรู้หัวใจตัวเอง แต่เขาก็ยืนยันที่จะไปเบลล่าอยู่กับเอ็ดเวิร์ดในเต้นท์ แต่เอ็ดเวิร์ดก็ไม่มีทีท่าจะโกรธเธอทั้งๆที่เขาเองก็รู้ทุกอย่าง จึงทำให้เบลล่ายิ่งรู้สึกผิด การต่อสู้เริ่มขึ้น และในขณะเดียวกันความผิดปกติก็เกิดขึ้น วิคตอเรียและ riley ปรากฏตัวออกมา เอ็ดเวร์ดจึงได้รู้ว่าตัวเองคิดผิด วิคตอเรียตามกลิ่นเขา เพราะรู้ว่าเบลล่าจะต้องอยู่ข้างกายของเขา การต่อสู้จึงเริ่มขึ้น ในที่สุดเอ็ดเวิร์ดและเซ็ทก็เป็นฝ่ายชนะ ขณะเดียวกันการต่อสู้ของกลุ่มที่เหลือที่ดูท่าว่าจะเรียบร้อยก็เกิดความผิดพลาดขึ้น... เจคอบได้รับบาดเจ็บท้ายที่สุดของการต่อสู้ เจน สมาชิกจากโวลตูรีเดินทางมาเก็บกวาดความเรียบร้อย และพูดให้คิดว่าทำไมเบลล่ายังไม่เปลี่ยนเป็นแวมไพร์อีก แต่อลิซก็ได้พูดทัดทานไว้เบลล่าไม่มีจิตใจทำอะไรด้วยห่วงเจคอบ ในที่สุดเบลล่าก็ได้ไปพบเจคอบ และได้พูดคุยทำความเข้าใจกัน เจคอบยอมรับความพ่ายแพ้ และบอกว่าเขาจะดีขึ้นในสักวัน เบลล่าตกลงจะจัดงานแต่งงานกับเอ็ดเวิร์ด โดยมีอลิซเป็นแม่งานการ์ดเชิญถูกส่งไปยังบ้านของเจคอบ พร้อมจดหมายขอบคุณจากเอ็ดเวิร์ด เจคอบที่ยังคงทำใจไม่ได้อ่านจดหมายแล้วแปลงร่างเป็นหมาป่าวิ่งไปเรื่อยๆ อย่าเต็มกำลัง
วันพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2554
นวจันทรา(New moon) ภาค 2
New Moon เริ่มต้นจากฝันร้ายของเบลล่าเรื่องความกลัว..แก่..ของเธอ เนื่องจากเอ็ดเวิร์ดยังคงยึดมั่นที่จะไม่ยอมเปลี่ยนเบลล่าให้กลายเป็นแวมไพ ร์ วันนี้คือวันเกิดของเบลล่า เธออายุ 18 ปีเต็มและ..แก่.. (อย่างน้อยก็แก่กว่าเอ็ดเวิร์ดทางกายภาพล่ะ) เบลล่าเกลียดมันที่สุด แต่อลิสกลับกระตือรือร้นที่จะจัดงานวันเกิดให้โดยไม่สนใจเสียงประท้วงจากเบล ล่าแม้แต่น้อย (เช่นเดียวกับคนในครอบครัวของเบลล่า) แต่งานวันเกิดที่ควรจะสนุกสนาน กลับเกิดเหตุขึ้นจนได้เมื่อความซุ่มซ่าม(เป็นประจำ)ของเบลล่า ที่แกะของขวัญและทำกระดาษบาดมือถึงเลือด กลิ่นเลือดหอมหวนมีผลให้แจสเปอร์เข้าแอ็ดแท็กเธอทันใด ซ้ำร้ายตัวเธอยังล้มไปทับชามแก้มที่ประดับห้อง จนเลือดกระฉูดหนักกว่าเดิม พาเอาทั้งบ้านแทบคลั่งด้วยความอยากเลือด...
คาร์ไลล์ ช่วยทำแผลให้อย่างสุขุม แต่คนที่ผิดปกติมาที่สุดในบรรดาก็คือเอ็ดเวิร์ดตลอด 2-3 วันต่อมาดูครุ่นคิดและหงุดหงิดพิกล เบลล่ากังวลแต่จะหาใครช่วยก็ไม่ได้เพราอลิสที่มองเห็นอนาคตได้ก็ตามแจสเปอร์ ไปอยู่ต่างเมือง..ในที่สุดความสับสน สงสัยของเบลล่าก็สิ้นสุด เมื่อเอ็ดเวิร์ดบอกลากับเธอ กล่าวว่าไม่ต้องการอยู่ร่วมกับเธออีกต่อไป และครอบครัวคัลเลนจะอพยพไปจากฟอร์ค เอ็ดเวิร์ดขอคำสัญญาจากเบลล่า ว่าให้เธอดูแลตนเองให้ดีและอย่าได้ทำอะไรบ้าบิ่น ส่วนเขาก็ให้สัญญาว่าจะทำตนประหนึ่งว่าไม่เคยมีเขาอยู่ในโลก...กว่าเบลล่าจะ รู้ตัวอีกที ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับตัวเขา รูปถ่ายของเขา CD เพลงที่เขาแต่งให้ และอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเขา ก็ไม่อยู่อีกแล้ว ไม่มีอะไรเหลืออีกแล้ว ประหนึ่งกับเขาไม่เคยมีตัวตนอยู่จริงๆ
ผ่านไป 4 เดือน เบลล่าพยายามทำทุกอย่างเหมือนปกติ แต่ก็ไม่อาจปิดบังความโศกเศร้าล้ำลึกภายในได้...ในวันหนึ่งขณะที่กำลังเจอ อันตรายในพอร์ต เองเจลเลส เธอก็ได้ยินเสียงที่ดังขึ้นในหัว เสียงที่เธอเคยคุ้นและหลงรักไม่มีวันลืมเลือน..เสียงของเอ็ดเว็ร์ดที่คอย ห้ามไม่ให้เธอทำอะไรที่บ้าบิ่น เบลล่าไม่รู้ว่าเสียงนี้คือเรื่องจริงหรือหลอนไปเองแต่ก็อยากได้ยินมันอีก เป็นความสุขเล็กๆ ที่เธอพอจะไขว่คว้าได้
New Moon เริ่มต้นจากฝันร้ายของเบลล่าเรื่องความกลัว..แก่..ของเธอ เนื่องจากเอ็ดเวิร์ดยังคงยึดมั่นที่จะไม่ยอมเปลี่ยนเบลล่าให้กลายเป็นแวมไพ ร์ วันนี้คือวันเกิดของเบลล่า เธออายุ 18 ปีเต็มและ..แก่.. (อย่างน้อยก็แก่กว่าเอ็ดเวิร์ดทางกายภาพล่ะ) เบลล่าเกลียดมันที่สุด แต่อลิสกลับกระตือรือร้นที่จะจัดงานวันเกิดให้โดยไม่สนใจเสียงประท้วงจากเบล ล่าแม้แต่น้อย (เช่นเดียวกับคนในครอบครัวของเบลล่า) แต่งานวันเกิดที่ควรจะสนุกสนาน กลับเกิดเหตุขึ้นจนได้เมื่อความซุ่มซ่าม(เป็นประจำ)ของเบลล่า ที่แกะของขวัญและทำกระดาษบาดมือถึงเลือด กลิ่นเลือดหอมหวนมีผลให้แจสเปอร์เข้าแอ็ดแท็กเธอทันใด ซ้ำร้ายตัวเธอยังล้มไปทับชามแก้มที่ประดับห้อง จนเลือดกระฉูดหนักกว่าเดิม พาเอาทั้งบ้านแทบคลั่งด้วยความอยากเลือด...
คาร์ไลล์ ช่วยทำแผลให้อย่างสุขุม แต่คนที่ผิดปกติมาที่สุดในบรรดาก็คือเอ็ดเวิร์ดตลอด 2-3 วันต่อมาดูครุ่นคิดและหงุดหงิดพิกล เบลล่ากังวลแต่จะหาใครช่วยก็ไม่ได้เพราอลิสที่มองเห็นอนาคตได้ก็ตามแจสเปอร์ ไปอยู่ต่างเมือง..ในที่สุดความสับสน สงสัยของเบลล่าก็สิ้นสุด เมื่อเอ็ดเวิร์ดบอกลากับเธอ กล่าวว่าไม่ต้องการอยู่ร่วมกับเธออีกต่อไป และครอบครัวคัลเลนจะอพยพไปจากฟอร์ค เอ็ดเวิร์ดขอคำสัญญาจากเบลล่า ว่าให้เธอดูแลตนเองให้ดีและอย่าได้ทำอะไรบ้าบิ่น ส่วนเขาก็ให้สัญญาว่าจะทำตนประหนึ่งว่าไม่เคยมีเขาอยู่ในโลก...กว่าเบลล่าจะ รู้ตัวอีกที ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับตัวเขา รูปถ่ายของเขา CD เพลงที่เขาแต่งให้ และอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเขา ก็ไม่อยู่อีกแล้ว ไม่มีอะไรเหลืออีกแล้ว ประหนึ่งกับเขาไม่เคยมีตัวตนอยู่จริงๆ
ผ่านไป 4 เดือน เบลล่าพยายามทำทุกอย่างเหมือนปกติ แต่ก็ไม่อาจปิดบังความโศกเศร้าล้ำลึกภายในได้...ในวันหนึ่งขณะที่กำลังเจอ อันตรายในพอร์ต เองเจลเลส เธอก็ได้ยินเสียงที่ดังขึ้นในหัว เสียงที่เธอเคยคุ้นและหลงรักไม่มีวันลืมเลือน..เสียงของเอ็ดเว็ร์ดที่คอย ห้ามไม่ให้เธอทำอะไรที่บ้าบิ่น เบลล่าไม่รู้ว่าเสียงนี้คือเรื่องจริงหรือหลอนไปเองแต่ก็อยากได้ยินมันอีก เป็นความสุขเล็กๆ ที่เธอพอจะไขว่คว้าได้
เธอจึงเริ่มจะหัดขี่มอเตอร์ไซต์ ทำให้เธอได้พบกับเพื่อนแท้ (และช่างเครื่อง) "เจค็อบ" คนที่ทำให้เบลล่าค่อยกลับมามีชีวิตอีกครั้ง แต่เบลล่าก็ยังไม่เลิกหาเรื่องเสี่ยงตายอยู่ วันหนึ่งเธอเข้าป่าเพื่อที่จะกลับไปป่าของเธอและเขาอีกครั้ง แต่การณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นเมื่อเธอเจอโลรองต์ที่นั่นและได้รู้ว่าวิคตอเรีย ยังตามหาเธอหมายที่จะฆ่าเธอแก้แค้นให้เจมส์ที่ถูกครอบครัวคัลเลนรุมสะกรำ โลรองต์ที่กำลังหิวกะจะฆ่าเบลล่าแต่ทันใดนั้นเองก็มีฝูง(มนุษย์)หมาป่า เขามาขวางและไล่ล่าโลรองต์เข้าป่าไป หนึ่งในพวกนั้น ก็คือเพื่อนของเธอ เจค็อบ เพื่อนของเธอที่ตอนนี้กลายเป็นอมนุษย์ไปอีกคนแล้ว
ในขณะที่มนุษย์หมาป่าของเผ่าควิลยูตไล่ล่าตามหาวิคตอเรีย เบลล่าก็หาเรื่องเสี่ยงตายได้อีกวิธีหนึ่ง คือการไปกระโดดหน้าผาที่ ลา พุช เพื่อความตื่นเต้น เสียงที่คุ้นเคยพูดกับเธออีกครั้ง พยายามที่จะห้ามแต่ไร้ผลเพราะเบลล่ากระโดดลงไปแล้วเธอถูกคลื่นซัดจนเกือบจม น้ำตายเคราะห์ดีที่เจค็อบมาช่วยไว้ทัน เมื่อกลับถึงบ้านเบลล่าพบว่ามีแขกที่เธอไม่คาดฝันว่าจะพบมาเยือน เธอคือ.
.อลิส คัลเลน เธอมองเห็นภาพล่วงหน้านึกว่าเบลล่าฆ่าตัวตายจึงรีบมาหา แต่เรื่องยิ่งกลับตาลปัตเมื่อเอ็ดเวิร์ดเข้าใจผิดคิดว่าเบลล่าตายจริงๆ จึงบินไปอิตาลี อลิสที่มองเห็นภาพตกใจแทบสิ้นสติ รีบบอกเบลล่า เมื่อได้ยินคำว่า"อิตาลี" เบลล่าก็เข้าใจในทันทีว่ามันมีความหมายเช่นใด...เอ็ดเวิร์ดกำลังจะฆ่าตัวตาย!!!
เบลล่าและอลิซตามเอ็ดเวิร์ดไปที่อิตาลีก็พบว่าที่อิตาลีจัดงานสวมชุดแดงที่เป็นวันอับเปหิแวมไพร์ประจำชาติอยู่ไปถึงทันเวลาพอดี ก่อนออกจากอิตาลี โวลตูลีบอกพวกเขาว่าเบลล่าที่รู้เรื่องแวมไพร์นั้นต้องตายหรือไม่ก็ต้องกลายเป็นแวมไพร์ เมื่อกลับมาถึงฟอร์กส เอ็ดเวิร์ดบอกเบลล่าว่าที่เขาจากไปเพราะเขารักเธอและต้องการปกป้องเธอ เบลล่ายกโทษให้เขา ในตอนจบครอบครัวคัลเลนออกเสียงให้เปลี่ยนเบลล่าเป็นแวมไพร์หลังเธอเรียนจบมัธยมปลาย ขณะที่เอ็ดเวิร์ดคัดค้านอย่างเต็มที่
แรกรัตติกาล ภาค1 ย่อสุดๆ
เนื้อเรื่องว่าด้วย เบลล่า สวอน นางเอกของเรื่อง ที่ไม่เหมือนเด็กสาววัยรุ่นทั่วไป เธอไม่สนใจวัตถุนิยม ไม่ตามเทรนด์ ซึ่งพ่อแม่ได้หย่าร้างกัน โดยเธอได้อาศัยอยู่กับแม่ ต่อมา แม่ของเธอได้แต่งงานใหม่ เบลล่าคิดว่านี่จะเป็นการเปิดโอกาสให้กับแม่ของเธอ เธอจึงย้ายไปอยู่กับพ่อที่ฟอร์คส, สหรัฐอเมริกา ที่ฟอร์คสเป็นเมืองที่ฝนตกตลอดปี ไม่มีแดด มีต้นไม้เขียวชอุ่ม เธอจำใจย้ายมาอยู่ เพราะสามีใหม่ของแม่เป็นนักเบสบอลและต้องเดินทางบ่อย และแม่ต้องคอยดูแลเธออยู่ที่บ้าน เธอคิดว่ามันทำให้แม่ไม่มีความสุขนัก เมื่อวันแรกที่เธอได้ย้ายเข้ามาโรงเรียนไฮสคูลใหม่ เธอคิดว่ามันก็คงไม่ต่างอะไรจากโรงเรียนเก่าของเธอ แต่นั่นทำให้เธอได้พบกับนักเรียนชายผู้เพอร์เฟ็ค เขาทั้งรูปงาม แข็งแรง และฉลาดมากต่างจากนักเรียนชายทั่วๆไป เขามีนามว่า เอ็ดเวิร์ด คัลเลน ในตอนเช้า เธอเห็นเขาจ้องเธอตลอดอย่างไม่ละสายตา แต่เมื่อเธอและเขาต้องมานั่งใกล้กันตอนเรียนวิชาชีววิทยาเนื่องจากเหลือที่นั่งข้างเขาเพียงที่เดียว เขากลับไม่สนใจเธอแม้แต่น้อย และทำท่าทางเหมือนรังเกียจเธอ ภายหลัง เขาได้หายตัวไปเป็นเวลา 1 สัปดาห์ และกลับมาใหม่
เอ็ดเวิร์ดเคยช่วยชีวิตเบลล่าจากรถตู้ที่จะชนเธอด้วยการที่เขาหยุดมันด้วยมือเปล่า ทำให้เบลล่าตกตะลึงเป็นอย่างมาก และอีกหลายครั้งที่เขาช่วยเธอจากเหตุการณ์ที่ไม่ขาดฝัน เขาอ่านใจทุกคนได้ แต่มันใช้ไม่ได้กับเธอ ต่อมา เบลล่าได้รู้ว่าเอ็ดเวิร์ดเป็นแวมไพร์และครอบครัวของเขาต่างจากแวมไพร์ทั่วไป ครอบครัวเขาละเว้นการดื่มเลือดมนุษย์แต่ล่าสัตว์ใหญ่บนภูเขาสูงแทน ก่อนหน้านั้นเอ็ดเวิร์ดสงสัยในตัวเบลล่า จึงแอบเข้าไปที่ห้องนอนเธอในขณะที่เธอหลับ เขาได้ยินเธอพึมพำเรียกชื่อเขาออกมา เขาจึงได้รู้ว่าทั้งเธอและเขาต่างตกหลุมรักซึ่งกันและกัน แต่ทุกอย่างไม่ได้ดีเสมอไป เมื่อเจมส์, วิคตอเรีย และ ลอเรนท์ คู่ปรับของเอ็ดเวิร์ดได้เดินทางมาฟอร์คส พวกเขาคิดว่าการที่เอ็ดเวิร์ดสูญเสียคนรัก จะทำให้เขาต้องเจ็บปวดในชีวิตที่เป็นอมตะของตนเอง ความรัก ความเป็นอมตะ แวมไพร์ มนุษย์ นิรันดรกาล การสูญเสีย ยามแรกรัตติกาล จะทำให้เขาและเบลล่ารักกันได้หรือ แต่สุดท้ายทั้งคู่ก็คบกัน และเรื่องก็จะเพิ่มขึ้นในภาคต่อมา เมื่อปัญหาและอุปสรรคเกิดขึ้น
ตัวละครในภาคนี้
เอ็ดเวิร์ด คัลเลน - แวมไพร์หนุ่มผู้เพียบพร้อม มีเสน่ห์ต่อสาวๆ ทุกคน มีความสามารถในการอ่านใจ และสามารถสะกดจิตได้โดยสายตา ครั้งเป็นมนุษย์กำลังจะตายด้วยไข้หวัดใหญ่สเปน คาร์ไลล์จึงช่วยไว้โดยเปลี่ยนเอ็ดเวิร์ดเป็นแวมไพร์
เบลล่า สวอน - เด็กสาวที่ย้ายมาจากเมืองฟีนิกซ์ รัฐอริโซน่า ไม่ธรรมดาเพราะมีความสามารถในการสกัดใจโดยที่เธอเองก็ไม่รู้ตัว
ชาร์ลี สวอน - พ่อของเบลล่า เป็นสารวัตเมืองฟอร์คส
เรเน่ ไดเยอร์ - แม่ของเบลล่า เกลียดอากาศที่หนาวเย็นฝนตกเฉอะแฉะ จึงเลิกกับชาร์ลีไปแต่งงานใหม่
ฟิล ไดเยอร์ - สามีใหม่เรเน่
เจมส์ - ศัตรูของเอ็ดเวิร์ด มีความสามารถในเรื่องสามารถตามหาบุคคลที่ต้องการจะเจอได้
วิคตอเรีย - ศัตรูของเอ็ดเวิร์ด คู่รักของเจมส์
โลรองต์ - ศัตรูของเอ็ดเวิร์ด พอมีด้านดีอยู่ในตัวบ้าง
เอสเม่ คัลเลน - แม่บุญธรรมของเอ็ดเวิร์ด มีความสามารถที่จะมอบความรักให้แก่บุคคลรอบข้าง
ดร.คาร์ไลล์ คัลเลน - พ่อบุญธรรมของเอ็ดเวิร์ด มีความเมตตา เป็นคนที่ทำให้เอ็ดเวิร์ดกลายเป็นแวมไพร์
เอ็มเม็ตต์ คัลเลน - พี่ชายเอ็ดเวิร์ด มีพละกำลังมหาศาล
โรซาลี เฮล - พี่สาว (พี่สะใภ้) เอ็ดเวิร์ด คู่รักเอ็มเม็ตต์ แฝดผมทองแจสเปอร์
อลิซ คัลเลน - น้องสาวเอ็ดเวิร์ด มีความสามารถในการมองเห็นอนาคต แต่ความสามารถไม่ตายตัว เพราะอนาคตเปลี่ยนแปลงได้เสมอ
แจสเปอร์ เฮล - คู่รักอลิซ แฝดผมทองโรซาลี เพิ่งเลิกดื่มเลือดมนุษย์ มีความรู้ด้านอุปนิสัยของแวมไพร์เกิดใหม่
เจคอบ แบล็ค - มนุษย์หมาป่า เป็นศัตรูกับเผ่าพันธุ์แวมไพร์ หลงรักเบลล่า
บิลลี่ แบล็ค - พ่อของเจคอบ เพื่อนชาร์ลี ไม่ถูกกับพวกคัลเลนเพราะเป็นเผ่าพันธุ์ศัตรู
ไมค์ นิวตัน - เพื่อนเบลล่า แอบชอบเบลล่า เคยชวนเบลล่าไปงานพร็อมแต่เบลล่าปฏิเสธเพราะไม่อยากทำร้ายจิตใจเจสสิก้า
เจสสิก้า แสตนลีย์ - เพื่อนเบลล่า แอบชอบไมค์ นิวตัน
อริค - เพื่อนเบลล่า
แองเจล่า เวเบอร์ - เพื่อนเบลล่า
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)